ธุรกิจตัวอย่าง “ร้านถ่ายเอกสาร” ให้ประสบผลสำเร็จ (เล่าจากประสบการณ์)

คุณวุฒิพงษ์ คุณาภรณ์ ได้เข้ามาทำธุรกิจ”ร้านถ่ายเอกสาร” โดยเริ่มต้นจากการช่วยงานในร้านถ่ายเอกสารของพี่ชาย เมื่อปี 2538 ในการทำธุรกิจกับพี่ชายมีปัญหากับเครื่องถ่ายเอกสารบ้าง แต่เราก็ช่วยกันแก้ไขปัญหา โดยการตามช่าง เปลี่ยนทีมช่าง เปลี่ยนร้านซื้อเครื่อง ค่าใช้จ่ายในการดูแลเครื่องถ้าเปรียบเทียบกับรายได้ที่รับ ณ ขณะนั้นถือว่าเราอยู่ได้ เพราะเวลานั้นเราไม่มีคู่แข่ง ในราคาหน้าละ 50 สตางค์ คุณภาพและงานบริการถือว่าเราเป็นร้านที่ใหญ่มากในเวลานั้น จากร้านที่มีเครื่องถ่ายเอกสาร 4 ตัว เป็นเครื่องขาวดำ ผมจึงตัดสินใจซื้อเครื่องถ่ายเอกสารสียี่ห้อฟูจิซีร็อกซ์ ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็นเครื่องที่มีราคาสูงมาก เพราะสมัยนั้นการถ่ายเอกสารสี ปริ้นสี ได้ราคาดีมาก ราคางานปริ้นเอกสารสีขนาด A3 อยู่ที่แผ่นละ 250 บาท

ต่อมาเมื่อผมมีประสบการณ์เพิ่มมากขึ้นในเรื่องการทำเครื่องถ่าย ซ่อมเครื่อง รู้แหล่งการซื้อเครื่อง ก็เริ่มขยายธุรกิจเป็นของตัวเองเป็นสาขาแรก ใกล้กับโรงเรียนศึกษานารี และได้มีครู อาจารย์ ที่เห็นความสามารถ ความตั้งใจและงานบริการของเรา เดินเข้ามาติดต่อให้เข้าไปเปิดธุรกิจงานถ่ายเอกสารในโรงเรียน ซึ่งนั่นคือจุดเริ่มต้นในการขยายธุรกิจ สาขาที่ 2 ในโรงเรียนศึกษานารี หลังจากนั้นอีกหนึ่งปีต่อมาผมคิดว่า ผมมีความรู้ความสามารถพอที่จะขยายร้านได้เพิ่มขึ้นอีก วันหนึ่งผมได้แวะไปหาเพื่อนแถวโรงพยาบาลศรีธัญญา และได้เห็นฝั่งตรงข้ามมีตึกแถวคูหาหนึ่งประกาศให้เช่า ผมจึงเกิดความสนใจได้ติดต่อขอเช่า ผมได้ราคาเช่าในวันนั้นสองหมื่นบาท แต่การทำธุรกิจทุกอย่างผมคิดว่ามันมีปัญหา แต่ปัญหาทุกอย่างมันก็มีทางออก ในช่วงนั้นผมไม่ทราบว่าเกิดปัญหาอะไรกับร้านถ่ายเอกสารของผมหรือร้านเอกสารทั่วไป แต่ที่ผมจำได้ว่าวันแรกที่ร้านผมมีเครื่องถ่ายเอกสารอยู่สองตัวคือ เครื่องรุ่น 6060 และ 6050 เป็นเครื่องที่ผมไปซื้อมาทำเอง ซ่อมเครื่องเอง ล้างเครื่องเอง หรือเรียกว่า โอเวอร์ฮอลล์ ทำไปแบบครูพักลักจำไม่เก่งอะไรมากแต่เครื่องก็สามรถทำงานได้ในวันที่เปิดร้านวันแรกมีพนักงานอยู่ 3 คนรวมผมเป็น 4 คน รายได้ในการเปิดร้านวันแรก 79 บาท ซึ่งผมจำได้แม่นยำเพราะมันเป็นรายได้ที่น่าตกใจมากสำหรับการเปิดร้านถ่ายเอกสารวันแรก แต่เราก็ไม่ท้อเรามีการปรับปรุงพัฒนามามาตลอดหลังจากนั้นผ่านไปหนึ่งปีรายได้ของเราโตขึ้นเรื่อย ๆ

สำหรับผมคิดว่าคนเป็นเจ้าของร้านถ่ายเอกสาร จำเป็นต้องมีความรู้ในเรื่องเครื่องถ่าย มีความรู้ในเรื่องงานบริการ มีความรู้เกี่ยวกับแหล่งต้นทุนที่มีราคาถูก มิฉะนั้นค่าใช้จ่ายจะตกไปอยู่กับค่าแรงช่างหมด หากเราจะประหยัดเงินเรื่องค่าบริการเราจะต้องเสียเวลาส่วนตัวของเรา วิ่งหาอะไหล่ วิ่งหาเครื่องที่มีต้นทุนต่ำ วิ่งหาการแก้ปัญหาจากช่าง จากประสบการณ์ของผมแต่ละคนต่างความคิดเพราะบางคนมีเวลาซ่อมเครื่อง บางคนมีเวลาใช้ชีวิตส่วนตัว แต่สำหรับผมมีความรู้สึกว่าเหนื่อยมากกับการทำงาน ร่างกายไม่ได้พักผ่อน ต้องดูเครื่องซ่อมเครื่องจนดึกดื่น จนรู้สึกว่าร่างการเริ่มไม่ไหว ผมเลยตัดสินใจลองหาข้อมูลของเครื่องใหม่ต้นทุนถูกและมีการบริการที่ดีเพื่อทำให้ชีวิตผมตัว ผมมีเวลาในการทีจะคิดธุรกิจหรือทำธุรกิจอื่นเพิ่มขึ้น

จนวันหนึ่งผมได้ตัดสินใจเลือกใช้บริการเครื่องถ่ายเอกสารยี่ห้อฟูจิซีร็อกซ์ การลงทุนครั้งนั้นผมลงทุนไปถึงห้าล้านบาท ในการมีเครื่องถ่ายเอกสารฟูจิซีร็อกซ์ซึ่งมีบริการหลังการขาย การให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี การผลิตเอกสารที่แตกต่าง จนเริ่มมีงานเกี่ยวกับ สติ๊กเกอร์ งานทำนามบัตร งานสิ่งพิมพ์อื่นๆเพิ่มมากขึ้น จากรายได้ก่อนหน้านั้นที่เรายังไม่ได้ใช้เครื่องจากฟูจิซีร็อกซ์ และรับทำเฉพาะงานถ่ายเอกสารเข้าเล่ม เรารู้เลยว่าหลังความแตกต่างจากที่เราใช้เครื่องระดับโปรดักชั่นที่มี ความเร็วสูง คุณภาพดี ต้นทุนถูก จากวันนั้นเรามีลูกน้อง 3-4 คน วันนี้เราลูกน้องเกือบ 10 คน รายได้เฉลี่ยวันละ 7,000-8,000 ต่อวัน กระโดดขึ้นไปเป็นวันละ 20,000-30,000 บาท ต่อวัน ซึ่งวันนี้เรามองแล้วว่าเรามาถูกทางในการทำธุรกิจเครื่องถ่ายเอกสาร

สำหรับผู้สนใจที่จะเปิดร้านถ่ายเอกสาร เรายินดีให้คำปรึกษาฟรีครับ หรือลองคลิกเข้าไปดูเว็บไซด์ตัวอย่างธุรกิจร้านถ่ายเอกสารได้ที่ร้าน Digital World Copy